นักอนุรักษ์ นักการศึกษา และนักเล่าเรื่องผู้เปี่ยมด้วยพลังใจ มุ่งมั่นเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับธรรมชาติ จากผืนป่าในประเทศไทยสู่หมู่บ้านในประเทศลาว เดวิดได้ทุ่มเทหลายปีในการเปลี่ยนปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นโอกาสแห่งการเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วมของชุมชน โครงการอีโคบริค (Eco-bricks) ที่ริเริ่มขึ้นเพื่อแปรรูปขยะพลาสติกเป็นวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน ได้รับการยกย่องในเวที COP28 (การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 28) แสดงให้เห็นถึงพลังของแนวคิดง่าย ๆ ที่สามารถสร้างผลกระทบระดับโลกได้
เขาผสมผสานมุมมองจากระดับสากลเข้ากับการลงมือทำในท้องถิ่น จุดประกายให้ผู้คนดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งพัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่ใช้ได้จริง ผ่านการทำงานร่วมกับ GIVE Volunteers เดวิดได้เป็นผู้นำโครงการนับไม่ถ้วนที่ช่วยเสริมพลังให้กับเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ ให้ค้นพบบทบาทของตนเองในการปกป้องโลกของเรา ด้วยเวิร์กช็อปเชิงลึก กิจกรรมภาคปฏิบัติ และประสบการณ์การเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ เขาได้พิสูจน์แล้วว่าการกระทำเล็ก ๆ ทุกครั้งสามารถส่งแรงกระเพื่อมสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
นอกเหนือจากงานอนุรักษ์ เดวิดยังมีประสบการณ์ยาวนานด้านการศึกษาและการทำงานร่วมกันระดับนานาชาติ ทั้งการจัด English Camps โปรแกรมเยาวชน และกิจกรรมอาสาสมัครข้ามวัฒนธรรม ปรัชญาการสอนของเขาเรียบง่ายแต่ทรงพลัง คือ "การเรียนรู้จะเกิดผลสูงสุดเมื่อได้ลงมือทำ ร่วมแบ่งปัน และสัมผัสได้ทั้งด้วยหัวใจและความคิด"
ที่ Wild Roots เดวิดเชิญชวนผู้เข้าร่วมทุกวัยให้มาสำรวจ จินตนาการ และสร้างโลกที่ผู้คนและธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างเกื้อกูล ไม่ว่าจะเป็นการทำอีโคบริค การสังเกตสัตว์ป่า หรือการค้นพบความลับของผืนป่า ทุกกิจกรรมถูกออกแบบมาเพื่อจุดประกายความสงสัยใคร่รู้ ปลูกฝังความรับผิดชอบ และสร้างแรงบันดาลใจให้รักสิ่งแวดล้อมและภาษาอังกฤษไปตลอดชีวิต
การเดินทางของเดวิดเตือนให้เรารู้ว่า การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นจากความใส่ใจ ความอยากรู้อยากเห็น และความกล้าที่จะทำ และเขาเชื่อว่าด้วยแรงบันดาลใจ แม้จะเพียงครั้งละหนึ่งคนก็ตาม พวกเราทุกคนสามารถร่วมกันปกป้องโลกนี้ไว้ให้คนรุ่นต่อไป
ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางผืนเขียวของราชบุรี สวนโลวาน (Lovan Garden) ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพียงฟาร์มธรรมดา หากแต่คล้ายกับ “ความลับ” ที่ผืนดินเลือกจะเปิดเผยให้ผู้คนได้รับรู้ พื้นที่กว่า 50 ไร่ที่เต็มไปด้วยสวนผลไม้ บึงน้ำระยิบระยับแต้มด้วยดอกบัว และแสงแดดที่ส่องลอดร่มเงาไม้ใหญ่ ร้อยเรียงเป็นภาพผืนผ้าใบสีเขียวที่มีชีวิต ที่ซึ่งผักปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ต้นไม้ผลโอนอ่อนรับสายลม และป่าเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเสียงขับขานของปีกน้อยและจะงอยปากที่ไม่อาจมองเห็น
การออกแบบที่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่หยั่งรากลึกอยู่บน “โคก หนอง นา” โมเดล อันทรงคุณค่า พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ดินถูกออกแบบให้โอบอุ้มน้ำ หล่อเลี้ยงผืนดิน และต้อนรับความหลากหลายทางชีวภาพ ที่นี่ เกษตรกรรมมิใช่การดึงทรัพยากรออกไป แต่เป็น “บทสนทนา” การพูดคุยระหว่างผู้คน พืชพรรณ และสรรพชีวิตป่าที่หวนกลับมาเมื่อมีที่พักพิง ปรัชญาการทำงานคือการเลียนแบบธรรมชาติ ไม่ใช่เพื่อควบคุม แต่เพื่อเข้าใจและอยู่ร่วมกับมัน
ผู้มาเยือนจึงไม่ได้เพียงแค่เฝ้ามอง แต่ถูกเชื้อเชิญให้ก้าวเข้าสู่จังหวะของสวน ร่วมปลูกกล้า ร่วมพิธีโบราณแห่งการดำนา และสัมผัสจังหวะเงียบสงบของแผ่นดินที่สั่นสะท้อนอยู่ใต้ฝ่ามือ ที่นี่มีชีวิต!
มีความซื่อสัตย์เงียบงามบางอย่างในอาหารของ Lovan Kitchen
ความเข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ยคำ ว่าสิ่งที่ปรากฏบนจานนั้นเริ่มต้นมานานก่อนเปลวไฟเสียอีก ทุกอย่างเริ่มจากผืนดิน ใต้แสงอาทิตย์และสายฝนของราชบุรี ที่ซึ่งวัตถุดิบเติบโตอย่างไม่เร่งรีบ แต่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ
Lovan Kitchen ไม่ได้ยืนอยู่บนกระแสหรือเทคนิคเพียงอย่างเดียว หากแต่ตั้งอยู่บน “ความไว้วางใจ” ความไว้วางใจในผืนดิน ในฤดูกาล ในการคลี่คลายอย่างช้า ๆ ของรสชาติแท้จริง ที่นี่ตำราอาหารไม่ได้เดินตามกฎเกณฑ์มากเท่ากับเดินตามทางที่ธรรมชาตินำพา เมนูเปลี่ยนไปตามอากาศ จานอาหารปรับไปตามสิ่งที่สุกงอมในวันนั้น ๆ และไม่จำเป็นต้องนำเข้าจากที่ไกล เมื่อสวนได้มอบมาแล้วครบถ้วน
ในครัว เสียงเตาไฟแตกดังจังหวะสม่ำเสมอ ไม่รีบร้อน ไม่เสแสร้ง เพียงแค่พ่อครัวแม่ครัวที่เคลื่อนไหวเหมือนชาวสวน—ใส่ใจ มั่นคง และเอื้อเฟื้อ สมุนไพรที่เก็บมาในยามเช้ายังชุ่มน้ำค้าง ข้าวหุงร้อนหอม และหน้าที่เล็กน้อยทุกอย่างในการรักษาความสะอาดของครัวก็ไม่ใช่เพื่อโชว์ หากแต่เพราะความทรงจำที่เรายึดถือ ความทรงจำถึงเกียรติภูมิในอดีต ถึงผู้ที่มาก่อน ถึงศักดิ์ศรี หน้าที่ และรอยยิ้มที่กว้างใหญ่และอบอุ่นที่สุด
การได้กินอาหารที่นี่ จึงไม่ใช่การมารับประทานอาหารนอกบ้าน หากแต่เหมือนถูกเชื้อเชิญเข้าสู่บ้าน คุณไม่ใช่ “ลูกค้า” แต่คือแขกผู้มีเกียรติบนโต๊ะอาหารที่ถูกสร้างขึ้นด้วยขนบธรรมเนียมและความใส่ใจ รสชาติที่นี่ซ้อนชั้นแต่ไม่ดังอึกทึก ไม่ประดับเพื่ออวด แต่ปรุงมาเพื่อบำรุงร่างกาย ใช่…แต่ยังบำรุงหัวใจและจิตวิญญาณด้วย “ก็เหมือนที่ปู่เคยทำให้นั่นแหละ” พวกเขาว่าอย่างนั้น
เวิร์กช็อปและมื้ออาหารที่แบ่งปัน ยังเปิดหน้าต่างสู่หนทางการทำอาหารแบบเก่า ๆ ที่ช้ากว่า อ่อนโยนกว่า คุณอาจได้เรียนรู้การคั้นกะทิด้วยมือ หรือการย่างพริกบนไฟฟืน งานเหล่านี้ไม่ได้ทำเพียงเพื่อเลี้ยงดูผู้คน แต่คือวิธีการ “ระลึกถึง”
สำหรับ Lovan Kitchen อาหารไม่ใช่ “สินค้า” หากแต่คือความสัมพันธ์—กับแผ่นดิน กับอดีต และกับผู้คนที่ยังเชื่อว่าสิ่งที่ดีนั้นต้องใช้เวลา